ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พร้อมที่จะเปิดการสื่อสารพูดคุยกับผู้นำ คิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนืออีกครั้ง หลังจากที่เคยมีสายสัมพันธ์ฉันมิตรกันมาในช่วงรัฐบาลทรัมป์ 1.0 ตามข้อมูลจากโฆษกทำเนียบขาว
“ท่านประธานาธิบดียังคงพร้อมที่จะรับการติดต่อจาก คิม จองอึน” แคโรไลน์ ลีวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธ (11 มิ.ย.)
คำพูดของ ลีวิตต์ เป็นการตอบสนองรายงานของเว็บไซต์ NK News ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ โดยรายงานดังกล่าวอ้างว่า คณะผู้แทนเกาหลีเหนือประจำสำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก “ปฏิเสธ” ไม่ยอมรับจดหมายที่ ทรัมป์ ส่งถึง คิม จองอึน “ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
ทรัมป์ และ คิม เคยจัดการประชุมซัมมิตถึง 3 ครั้งในช่วงระหว่างปี 2017-2021 และมีการแลกเปลี่ยนสิ่งที่ ทรัมป์ เรียกว่า “จดหมายที่งดงาม” กันหลายครั้ง
ในเดือน มิ.ย. ปี 2019 ทรัมป์ ได้สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนแรกที่ย่างเท้าก้าวเข้าไปในเขตแดนเกาหลีเหนือ ระหว่างไปเยือนเขตปลอดทหารชายแดนสองเกาหลี
อย่างไรก็ตาม สายสัมพันธ์อันดีระหว่างสองผู้นำก็ไม่ได้ช่วยให้เกาหลีเหนือยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์ และ ทรัมป์ ก็เอ่ยปากยอมรับในเดือน มี.ค. ปีนี้ว่า เกาหลีเหนือคือ “มหาอำนาจนิวเคลียร์” ชาติหนึ่ง
ตั้งแต่การประชุมซัมมิตครั้งสุดท้ายจบลงไป เกาหลีเหนือก็ไม่แสดงท่าทีว่าอยากจะหวนกลับสู่โต๊ะเจรจากับสหรัฐฯ อีก
ความพยายามฟื้นสัมพันธ์ได้เกิดขึ้นอีกครั้งภายหลังศึกเลือกตั้งทั่วไปในเกาหลีใต้ ซึ่งประธานาธิบดี อี แจ-มยอง ผู้นำคนใหม่ของแดนโสมขาว ประกาศจะฟื้นฟูการเจรจาพูดคุยกับเปียงยาง
อี เริ่มส่งสัญญาณไมตรีด้วยการสั่งปิดเครื่องขยายเสียงชายแดนที่ใช้เปิดเพลง K-Pop และสื่อโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ข้ามเข้าไปในเขตเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า การดึงเกาหลีเหนือกลับสู่วงเจรจาอาจเป็นเรื่องลำบากมากขึ้นทั้งสำหรับ อี และ ทรัมป์ เพราะในช่วงไม่กี่ปีมานี้เกาหลีเหนือได้ขยายทั้งโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธทิ้งตัว รวมถึงผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ “รัสเซีย” ผ่านการช่วยสนับสนุนมอสโกทำสงครามในยูเครนทั้งด้วยกำลังทหารและอาวุธ
สื่อโสมแดงรายงานวันนี้ (12) ว่า ผู้นำ คิม ได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียว่า เกาหลีเหนือ “พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างมอสโกเสมอ”
ที่มา: รอยเตอร์